วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

เปรต

เปรต

เปรต เป็นผีตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงโย่งเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ตัวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้ จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วเกิดใหม่ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่

ความหมาย
คำว่า เปรต แปลว่า ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว ผู้ตายไปแล้ว ในทางพุทธศาสนาหมายถึง สัตว์พวกหนึ่งที่ที่เกิดในเปตสิสัยซึ่งเป็นอบายภูมิ ๑ ใน ๔ ซึ่งประเภทของเปรตมีหลายประเภท เช่นประเภทหนึ่งเรียกว่า ปรทัตตูปชีวิเปรต คือเปรตที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทำอุทิศให้ หากไม่มีส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ก็มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร โบราณมีความเชื่อที่ว่า ถ้าใครทำร้ายพ่อแม่ ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นผีเปรต

การทำพลีกรรมแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือการทำบุญอุทิศไปให้ผู้ตายว่า เปตพลี หรือ บุพเปตพลี

ประเภทของเปรต
ประเภทของเปรตมีการแบ่งหลายประเภท เช่น
1. แบ่งตาม เปตวัตถุอรรถกถา แบ่งได้ 4 ประเภท
- ปรทัตตุปชีวิกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ จากอาหารที่มีมนุษย์ให้ เช่น การเซ่นไหว้ เป็นต้น
- ขุปปีปาสิกเปรต คือ เปรตที่อดอยาก ทุกข์จากความหิวโหยอยู่เป็นนิจ
- นิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
- กาลกัญจิกเปรต คือ เปรตในจำพวกอสุรกาย

2. แบ่งตาม คัมภีร์โลกบัญญัตติปกรณ์ และ ฉคติทีปนีปกรณ์ แบ่งได้ 12 ประเภท
- วันตาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
- กุณปาสเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินซากศพคนหรือสัตว์ เป็นอาหาร
- คูถขาทกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินอุจจาระต่าง ๆ เป็นอาหาร
- อัคคิชาลมุขเปรต คือ เปรตที่มีเปลวไฟลุกทั่วในปากตลอดเวลา
- สุจิมุขเปรต คือ เปรตที่มีปากเท่าเล็กขนาดเท่ารูเข็ม
- ตัณหัฏฏิตเปรต คือ เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนจนเกิดทุกข์จากความหิวข้าวหิวน้ำอยู่เสมอ
- สุนิชฌามกเปรต คือ เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่ถูกเผา
- สุตตังคเปรต คือ เปรตที่มีเล็บมือเล็บเท้ายาวและคมราวกับมีด
- ปัพพตังคเปรต คือ เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าขนาดของภูเขา
- อชครังคเปรต คือ เปรตที่มีร่างกายราวกับงูเหลือม
- เวมานิกเปรต คือ เปรตที่ต้องเสวยทุกข์เฉพาะในเวลากลางวัน แต่ในเวลากลางคืนได้ไปเสวยสุขในวิมาน
- มหิทธิกเปรต คือ เปรตที่มีฤทธิ์มาก

3. แบ่งตามวินัยและลักขณสังยุตตพระบาลี แบ่งได้ 21 ประเภท
- อัฏฐีสังขสิกเปรต คือ เปรตที่มีแต่กระดูกติดกันเป็นท่อน ๆ
- มังสเปสิกเปรต คือ เปรตที่มีแต่เนื้อเป็นชิ้นๆ
- มังสปิณฑเปรต คือ เปรตที่มีเนื้อเป็นก้อน
- นิจฉวิปริสเปรต คือ เปรตที่ไม่มีหนังห่อหุ้ม
- อสิโลมเปรต คือ เปรตที่มีขนเป็นพระขรรค์
- สัตติโลมเปรต คือ เปรตที่มีขนเป็นหอก
- อุสุโลมเปรต คือ เปรตที่มีขนเป็นลูกธนู
- สูจิโลมเปรต คือ เปรตที่มีขนเป็นเข็ม
- ทุติยสูจิโลมเปรต คือ เปรตที่มีขนเป็นเข็มชนิดที่ ๒
- กุมภัณฑเปรต คือ เปรตที่มีอัณฑะใหญ่โตมาก
- คูถกูปนิมุคคเปรต คือ เปรตที่จมอยู่ในอุจจาระ
- คูถขาทกเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินอุจจาระ
- นิจฉวิตกิเปรต คือ เปรตหญิงที่ไม่มีหนังห่อหุ้ม
- ทุคคันธเปรต คือ เปรตที่มีกลิ่นเหม็นเน่า
- โอคิลินีเปรต คือ เปรตที่มีร่างกายเป็นถ่านไฟ
- อลิสเปรต คือ เปรตที่ไม่มีศีรษะ
- ภิกขุเปรต คือ เปรตที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับพระ
- ภิกขุณีเปรต คือ เปรตที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับภิกษุณี
- สิกขมานเปรต คือ เปรตที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับสิกขมานา
- สามเณรเปรต คือ เปรตที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับสามเณร
- สามเณรีเปรต คือ เปรตที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับสามเณรี

เปรตวัดสุทัศน์และเปรตในสังคมไทย
เป็นความเชื่อแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์เกี่ยวกับเรื่องราวของเปรตแห่งวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่เล่ากันว่าที่วัดแห่งนี้มักมีเปรตปรากฏกายในเวลากลางคืนเป็นที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ประกอบกับอหิวาตกโรคที่ระบาดจนมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 จนเผาศพแทบไม่ทัน ณ วัดสระเกศ จนมีคำกล่าวคล้องจองกันว่า "แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ "

ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เรื่องเล่าเปรตวัดสุทัศน์ฯนั้น มาจากภาพวาดบนฝาผนังในอุโบสถ ที่เป็นรูปเปรตตนหนึ่งนอนพาดกายอยู่ และมีพระสงฆ์ยืนพิจารณาอยู่ ซึ่งภาพนี้มีชื่อเสียงมากในสมัยอดีต เป็นที่เลื่องลือกันของผู้ที่ไปที่วัดแห่งนี้ว่าต้องไปดู และสิ่งที่ผู้คนเห็นว่าเป็นเปรตนั้น ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณวัดแห่งนี้มายาวนานบอกว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นเงาของเสาชิงช้าที่อยู่หน้าวัด ในสายหมอกยามเช้าต่างหาก

ต่อมา เรื่องเปรตวัดสุทัศน์นี้ได้ถูกเขียนเป็นนวนิยาย และมีการนำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2546 ออกอากาศทางช่อง 7 นำแสดงโดย วรนุช วงษ์สวรรค์ และ เอกรัตน์ สารสุข

เรื่องราวของเปรตในสังคมไทย เคยปรากฏเป็นข่าวครึกโครมผ่านทางสื่อมวลชนมาครั้งหนึ่ง ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2543 เมื่อทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวหน้าหนึ่งว่า มีผู้บันทึกวีดีโอของเปรตได้ที่ป่าคำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งปาฏิหารย์ต่าง ๆ ในป่าแห่งนี้ได้อีกด้วย เช่น การตักบาตรกับต้นไม้โดยรุกขเทวดาซึ่งจะได้เป็นข้าวมธุปายาส เป็นต้น เมื่อวีดีโอชุดนี้ได้เผยแพร่ออกไป มีบุคคลจำนวนหนึ่งให้ความเชื่อถือ เช่น พ.อ.นพ.พงศักดิ์ ตั้งคณา นักพูดชื่อดัง รวมทั้งพระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดังเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นต้น

ต่อมา ความได้ปรากฏว่าแท้ที่จริงแล้ว เรื่องทั้งหมดในเทปวีดีโอนั้น ล้วนแต่เป็นการจัดฉาก โดยบุคคลที่ชื่อ นายกิตติ ประภัสโรบล หรือที่นิยมเรียกกันว่า อาจารย์กู้ ซึ่งนายกิตติได้มีพฤติกรรมหลอกลวงเช่นนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว โดยในครั้งนี้นายกิตติได้แสดงเป็นเปรตจึงถูกเรียกว่า เปรตกู้ ต่อมานายกิตติก็ได้ถูกตำรวจที่นำโดย พล.ต.ต.คงเดช ชูศรี จับกุม และถูกศาลพิพากษาให้จำคุกให้ข้อหาหลอกลวงประชาชน เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว นายกิตติได้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่

ในกลางปี พ.ศ. 2551 ที่จังหวัดลำปาง มีเด็กชายคนหนึ่งตื่นนอนขึ้นมากลางดึก และเห็นสิ่งประหลาดที่มีรูปร่างสูงมากนอกหน้าต่างมุ้งลวดจากห้องนอน จึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งต่อมาเป็นที่โจษจันกันว่าเป็นรูปเปรต แต่เมื่อรายการเรื่องจริงผ่านจอ ทางช่อง 7 ได้ขึ้นไปพิสูจน์ พบว่าเป็นเพียงเงาของเศษผ้าที่อุดมุ้งลวดที่ขาดเท่านั้นเอง



จาก
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม